อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าทองคำเป็นสิ่งที่มีคุณค่าแก่มนุษย์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สมัยนี้ผู้คนนิยมเป็นอย่างมากคือซื้อทองเพื่อเกร็งกำไร และอย่างที่ทราบกันดีว่าคนทั่วไปนิยมซื้อทองมาตกแต่งร่างกายนั่นเอง เพราะความสวยงามของทองคำที่แวววาวเหลืองทองอร่ามทำให้ทองคำดูสวยงามและมีคุณค่า ข้อดีของทองคำแท้แม้ผ่านการเวลาไปนานแค่ไหนสีของทองคำก็ไม่มีวันที่จะซีดหรือหม่นลง 

 

การนำทองคำมาทำเป็นเครื่องประดับไม่เพียงแต่จะหล่อ หลอม และตีทองคำเพื่อให้เกิดลวดลายและรูปทรงต่างๆ แต่การดีไซน์เครื่องประดับทองคำแท้นั้นมีทั้งการตกแต่งด้วยอัญมณี เช่น มรกต โกเมน บุษราคัม ไพลิน นิล มุก นอกจากการเพิ่มอัญมณีในเครื่องประดับให้ดูสวยหรูแล้ว ยังมีการลงยาเพื่อเพิ่มเสน่ห์ของทองคำให้ดูมีมูลค่ามากขึ้นอีกด้วยค่ะ




เครื่องประดับ ทองคำลงยา

เป็นเครื่องประดับทองคำที่มีลวดลายและสีสันอื่นๆเพิ่มเติมจากสีทองคำ ซึ่งการลงยาคือการใช้สีหรือน้ำยามีการแต่งแต้มลงบนลวดลายที่ช่างทองออกแบบมาค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีขาว และสีฟ้า ซึ่งการลงยาจะมีทั้งหมดอยู่ 2 วิธี ได้แก่ ลงยาร้อน และ ลงยาเย็น

การลงยาร้อน จะเป็นก้อนเล็กๆก่อนที่จะใช้ต้องนำไปบดให้เป็นผง และแตะน้ำเล็กน้อย แล้วจึงค่อยแต่งแต้มสีลงบนลวดลายของเครื่องประดับทองคำ จากนั้นจึงค่อยใช้ไฟเป่าเพื่อให้ตัวสีนั้นติดกับทองคำ

การลงยาเย็น จะเป็นเซรามิคชนิดหนึ่ง มีลักษณะเหมือนสีน้ำทั่วไป วิธีการทำนั้นจะแต่งแต้มน้ำยาลงไปในบริเวณที่ต้องการลงยา แล้วอบต่อด้วย UV ให้แห้งจากนั้นจึงเป็นการเสร็จสมบูรณ์

การลงยาทองคำเป็นเทคนิคการตกแต่งเครื่องประดับที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะนอกจากความสวยงามแล้วยังสามารถเพิ่มคุณค่าและมูลค่าของเครื่องประดับได้อีกด้วย ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีการติดต่อซื้อขายทองลงยา เป็นครั้งแรกๆที่เครื่องประดับลงยาทองคำเป็นที่รู้จักของคนไทย เนื่องจากในสมัยกรุงศรีอยุธยานั้นได้มีการติดต่ดซื้อขายทองลงยาจากต่างประเทศ เช่น เปอร์เซีย กรีก อียิปต์ จีน และโรมัน ซึ่งในประเทศเหล่านี้ได้มีความนิยมอยู่ก่อนแล้ว และในช่วงหลังของสมัยกรุงศรีอยุธยาจนมาถึงต้นสมัยกรุงสุโขทัยยังมีการนิยมลงยาตกแต่งบนภาชนะอีกด้วย ซึ่งจะเป็นจำพวกเครื่องใช้ราชูปโภคต่างๆของพระมหากษัตริย์ในยุคนั้น การลงยาทองคำนั้นมีความนิยมสูงสุดในช่วงของสมัยรัชกาลที่ 4 นั่นเองค่ะ

 

ความแตกต่างระยะการลงยาร้อนและลงยาเย็น

คือ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วการลงยาร้อนเป็นวิธีที่ค่อนข้างจะยุ่งยากกว่าแต่มีความคงทนมากกว่าการลงยาแบบเย็น เพราะเหตุนี้ถึงนิยมใช้วิธีการลงยาทองคำแบบร้อนมากกว่าการลงยาแบบเย็นนั่นเองค่ะ



ข้อดีข้อเสียของการทองลงยา

ข้อดี คือทำให้เครื่องประดับทองคำมีลวดลายและมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น และนอกจากนี้ยังเป็นการอนุรักษ์งานฝีมือของคนไทยที่มีมาแต่ช้านานไว้อีกด้วย

ข้อเสีย คือคนที่สวมใส่จะต้องมีความระมัดระวัง เพราะหากมีการกระแทกหรือกระทบกับวัตถุอื่นแล้วจะทำให้ส่วนที่ลงยานั้นหลุดออกมาได้นั่นเองค่ะ ราคาซื้อขายเครื่องประดับทองลงยานั้นจะมีน้ำหนักทองที่น้อยกว่าทองรูปพรรณปกติ เพราะเนื่องจากมีการตกแต่งสีบนเครื่องประดับทอง ทำให้น้ำหนักของเครื่องประดับทองนั้นเพิ่มขึ้น การซื้อเครื่องประดับทองลงยานั้นจะมีราคาที่สูงกว่า เพราะมีความละเอียดของลวดลายนั้นๆ และค่าของฝีมือช่าง แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าเวลาขายนั้นราคาอาจตกลงมา เนื่องจากว่าการขายจะคิดตามน้ำหนักของทองเท่านั้น


การดูแลรักษาเครื่องประดับทองลงยา

สามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆโดย แช่เครื่องประดับทองลงยาในน้ำอุ่นที่ผสมกับน้ำยาล้างจาน ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีจากนั้นจึงใช้แปรงขนนุ่มขัดเบาๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆเช็ดเครื่องประดับทองลงยาให้แห้ง และส่วนการเก็บรักษาควรเก็บไว้ในกล่องไม่ควรเก็บรวมกับเครื่องประดับชิ้นอื่น เพื่อให้เครื่องประดับทองลงยานั้นมีความสมบูรณ์ตอนสวมใส่ทุกครั้งนั่นเองค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะกับสาระน่ารู้ที่เกี่ยวกับ เครื่องประดับทองลงยา ที่ออโรร่านำมาฝาก หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะคะ บทความต่อไปจะเป็นความรู้เกี่ยวกับอะไรนั้นออโรร่าฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ สุดท้ายนี้หากคุณสนใจ เครื่องประดับทองลงยา สามารถสอบถามและสั่งซื้อตามช่องทางออนไลน์ของออโรร่าได้ตามด้านล่างนี้เลยค่ะ
 



WEBSITE : www.aurora.co.th

FACEBOOK : Aurora Gold and Jewelry

Line Official : @aurorathailand

Line Shopping > Click

 

รู้โปรโมชั่นดีๆ ก่อนใครได้ที่

Aurora Diamond Outlet > Click

Aurora Online > Click

Aurora บอกโปร > Click

มูเตลู พระเครื่อง > Click

โปรลับคนรักเพชร > Click

 

8,107ครั้ง