ก่อนจะลอยกระทง มารู้จักที่มาและความหมายของเทศกาลนี้กันเถอะ !

 

วันลอยกระทง 2568 ตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568

สายเที่ยว สายวัฒนธรรมเตรียมตัวให้พร้อม! เพราะเทศกาลแห่งแสงไฟและเสียงหัวเราะกำลังจะกลับมาอีกครั้งในปีนี้ 🌕 

ก่อนจะชวนเพื่อนไปลอยกระทงหรือเตรียมชุดไทยสวยๆ ไปร่วมงาน เราขอชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับ "วันลอยกระทง" ให้มากขึ้นกันสักนิด เพราะความพิเศษของวันนี้ไม่ได้มีแค่บรรยากาศสุดโรแมนติกและกิจกรรมสุดคึกคักเท่านั้นนะคะ

เบื้องหลังความสนุก ยังเต็มไปด้วย เรื่องราวทางวัฒนธรรมและความเชื่อโบราณที่สืบทอดกันมานับร้อยปี เลยทีเดียว

เรามาร่วมย้อนรอย ประวัติของวันลอยกระทงในประเทศไทย ไปด้วยกัน แล้วคุณจะหลงรักเทศกาลนี้มากยิ่งขึ้นแน่นอน 

 

วันลอยกระทง เป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญของกลุ่มชาติพันธุ์ไทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย โดยจะจัดขึ้นในคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ซึ่งตรงกับช่วงปลายฤดูฝนและต้นฤดูหนาว  

ประเพณีนี้มีจุดประสงค์เพื่อ สะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคา เทพีแห่งสายน้ำตามความเชื่อในศาสนาฮินดู อย่างไรก็ตาม ต้นกำเนิดของเทศกาลนี้ยังมีร่องรอยที่เชื่อมโยงไปถึงวัฒนธรรมโบราณของจีนและอินเดียอีกด้วย

 
 

ต้นกำเนิดของประเพณีลอยกระทง 

แม้จะไม่มีหลักฐานแน่ชัดที่ระบุว่าประเพณีลอยกระทงเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อใด แต่มีความเชื่อกันว่า ประเพณีนี้มีการสืบทอดมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัย กรุงสุโขทัย

ในรัชสมัยของ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช มีการเรียกพิธีลอยกระทงว่า "พิธีจองเปรียญ" หรือ "การลอยพระประทีป" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานเฉลิมฉลองที่สำคัญในยุคนั้น

โดย ศิลาจารึกหลักที่ 1 ได้กล่าวถึง "งานเผาเทียนเล่นไฟ" ซึ่งเป็นงานรื่นเริงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัย เชื่อกันว่างานนี้เองคือจุดเริ่มต้นของ ประเพณีลอยกระทง ที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน

วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 5 ตำนาน ที่เล่าขานเกี่ยวกับ "วันลอยกระทง" ว่ามีความหมายอะไรบ้าง และมีที่มาอย่างไร


1. 🪷 ลอยกระทงเพื่อขอขมาต่อพระแม่คงคา

ตำนานนี้เป็นที่รู้จักกันมากที่สุด เชื่อว่าการลอยกระทงเป็นการแสดงความขอบคุณ และขอขมาต่อ พระแม่คงคา เทพีแห่งสายน้ำ ที่ให้ชีวิต ความอุดมสมบูรณ์ และยังรับสิ่งไม่ดีต่าง ๆ จากมนุษย์ การลอยกระทงจึงเป็นการ "คืนสิ่งไม่ดี" และขอให้ชีวิตเริ่มต้นใหม่อย่างบริสุทธิ์ใจ

 

2.🔥 พิธีลอยพระประทีปในสมัยสุโขทัย

ตาม ศิลาจารึกหลักที่ 1 ในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง กล่าวถึง "งานเผาเทียนเล่นไฟ" ซึ่งเป็นงานรื่นเริงประจำปี เชื่อกันว่าเป็นต้นแบบของ ประเพณีลอยพระประทีป หรือที่เรียกว่า “พิธีจองเปรียญ” ในอดีต ก่อนจะพัฒนากลายเป็น “ลอยกระทง” ในปัจจุบัน

 

3. 👸 นางนพมาศ กับการประดิษฐ์กระทงดอกบัว

อีกหนึ่งตำนานเล่าว่า หญิงสาวนามว่า นางนพมาศ ในราชสำนักสุโขทัย เป็นผู้ริเริ่มประดิษฐ์ กระทงดอกบัวรูปทรงงดงาม ถวายพระร่วงเจ้าในงานลอยพระประทีป ถือเป็นต้นแบบของการลอยกระทงที่งดงามและมีศิลปะในปัจจุบัน

 

4. 🧘‍♀️ ความเชื่อทางศาสนา พุทธ-ฮินดู

บางตำนานเชื่อว่า การลอยกระทงเป็นการ บูชาเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ ที่ประดิษฐานอยู่ใต้แม่น้ำ ตามคติความเชื่อในพุทธศาสนา ส่วนในศาสนาฮินดู การบูชาไฟและน้ำ ถือเป็นการแสดงความเคารพต่อธรรมชาติและเทพเจ้า เช่น พระวิษณุ หรือ พระแม่คงคา

 

5. 🌊 สะเดาะเคราะห์ ปัดเป่าสิ่งไม่ดี

หลายพื้นที่ในประเทศไทยเชื่อว่าการลอยกระทงเป็นการ สะเดาะเคราะห์ ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และส่งเคราะห์ร้ายไปกับแม่น้ำ เพื่อให้ชีวิตพบเจอแต่สิ่งดี ๆ ในปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติ


วันลอยกระทงไม่ใช่แค่เทศกาลแห่งความงามของแสงเทียนกลางสายน้ำ แต่คือมรดกทางวัฒนธรรมที่หลอมรวมความศรัทธา ความกตัญญู และความหวังของผู้คนเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะมองจากแง่มุมของศาสนา ประวัติศาสตร์ หรือจิตวิญญาณ วันลอยกระทงยังคงมีคุณค่า และควรค่าแก่การเรียนรู้และสืบสานต่อไปในอนาคต  

 

ช่องทางติดตามข่าวสารและสั่งซื้อสินค้า
🌐 Website : www.aurora.co.th
📌 Facebook : Aurora Gold and Jewelry
💬 Line Official : @aurorathailand
🌈 Instagram  :  Auroragoldandjewelryth
💥TIKTOK  : @auroragoldandjewelry
🍋 Lemon 8  :  @auroragoldandjewelry
💫 X  :  @augoldofficial
🧡 Shopee: https://shopee.co.th/aurora_gift_officialshop
                      https://shopee.co.th/auroradesign
💙 Lazada:  https://s.lazada.co.th/a.0RkY
                      https://lazada.co.th/shop/aurora-selected/

 
 
168ครั้ง