พิธีพุทธาภิเษก หลวงพ่อโสธร รุ่นโสฬสมหามงคล ณ วัดประศาสน์โสภณ หรือ วัดบางกรูด จ.ฉะเชิงเทรา

ประวัติของหลวงพ่อพุทธโสธร (พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองฉะเชิงเทรา) หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกขานด้วยความเคารพว่า “หลวงพ่อโสธร” เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา พระพุทธรูปที่ได้รับการสักการะบูชาจากประชาชนทั่วประเทศมาอย่างยาวนาน ด้วยเชื่อกันว่า มีพุทธานุภาพในด้านเมตตา คุ้มครอง และประทานโชคลาภ

ตำนานพื้นบ้านเล่าว่า...

อดีตครั้งหนึ่ง มีพระพุทธรูป 3 องค์ ลอยน้ำมา ได้แก่ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม, หลวงพ่อโตวัดบางพลี, และ หลวงพ่อโสธร โดยหลวงพ่อโสธรได้ลอยทวนน้ำมาทางแม่น้ำบางปะกง และ อัศจรรย์ที่ไม่สามารถอัญเชิญขึ้นจากน้ำได้เลย จนกระทั่งมีการนิมนต์ด้วยพิธีกรรมทางศาสนา จึงสามารถอัญเชิญขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ เหตุการณ์นี้สร้างแรงศรัทธาแก่ชาวบ้านอย่างล้นหลาม และเชื่อกันว่าพระองค์นี้มีพุทธคุณทางเมตตาและคุ้มครองภัยอันตราย

วัดประศาสน์โสภณ หรือ วัดบางกรูด จังหวัดฉะเชิงเทรา สถานที่ตั้ง หลวงพ่อโสธรองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งเด่นสง่าริมแม่น้ำบางปะกง 

ประวัติ วัดประศาสน์โสภณ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ในตำบลท่าพลับ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา มีชื่อเดิมว่า วัดบางกรูดวิสุทธาราม แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดบางกรูด ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๓๐๔ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕

ปูชนียวัตถุที่สำคัญ ได้แก่ 

พระพุทธรูปปางมารวิชัยซึ่ง ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ , พระพุทธเกตอุดมปางสมาธิ ประดิษฐานในวิหารแปดชั้น, พระพุทธไศยาสน์ ประดิษฐานในวิหารคด สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๘  พระพุทธรูปทุกกริยา ประดิษฐานในวิหารแปดชั้น สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๒ มีพระไตรปิฎก จำนวน ๒๔ เล่ม และ หลวงพ่อโสธรองค์ใหญ่ ที่มีความสูง 25.80 เมตร และขนาดหน้าตักที่กว้างถึง16.33 เมตร จึงเป็นที่มาของชื่อรุ่นหลวงพ่อโสธรโสฬสมหามงคล “โสฬส” = สิบหก (16)

—--------------------------------------------------------------------------------------

หลวงพ่อโสธร “รุ่นโสฬสมหามงคล”  พุทธาภิเษก ณ วัดประศาสน์โสภณ จ.ฉะเชิงเทรา 

“โสฬสบันดาล เปิดทางมั่นคง”

นำพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล โดย พระครูวิสุทธิ์ศาสนกิจ (สมคิด ปญฺญาโสภโณ) เจ้าอาวาส วัดประศาสน์โสภณ จังหวัดฉะเชิงเทรา

วันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๘ ณ เวลา ๑๖.๑๖ น. ตรงกับวันพระ คืนแปดค่ำ เดือนเจ็ด

เริ่มกล่าวเปิดเข้าสู่พิธีพุทธาภิเษกในฤกษ์มงคล ได้รับเกียรติสวดพระพุทธมนต์นำโดย พระเกจิอาจารย์ ๕ รูป และ พระเถระ ๑๑ รูป

นำสวดพระพุทธมนต์ อธิษฐานจิตโดย : 

1. พระครูวิสุทธิ์ศาสนกิจ (สมคิด ปญฺญาโสภโณ) - เจ้าอาวาสวัดประศาสน์โสภณ (วัดบางกรูด) จังหวัดฉะเชิงเทรา

2. พระครูวิตรธรรมรัตน์ - เจ้าอาวาสวัดนามะตูม

3. พระครูโสภิตสุตคุณ (หลวงพ่อมหาวิทยา ญาณวโร) - เจ้าคณะอำเภอบ้านโพธิ์ เจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์ จังหวัดฉะเชิงเทรา

4. พระครูวินัยธรวิเชษฐ์ จิตตฺปญฺโญ (พระอาจารย์เชษฐ์ ) - เจ้าอาวาสวัดถวิลศิลามงคล จังหวัดฉะเชิงเทรา 

5. หลวงปู่โชค อุตตโม จ. นครราชสีมา - เกจินักบุญนักพัฒนา สำนักสงฆ์หลวงปู่โชค ศิษย์สายตรง "หลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดิน" 

พรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อปลุกความเจริญรุ่งเรืองกับ “หลวงพ่อโสธร รุ่นโสฬสมหามงคล”

จบพิธี - ทำการดับเทียนชัย พร้อมมอบของขวัญเป็นที่ระลึกและเสริมสิริมงคล แด่ผู้ร่วมพิธี

--------------------------------------------------------------------------------------

พิธีอธิษฐานปลุกเสกผ้ายันต์โสฬสมหามงคล ณ วัดหน้าพระเมรุราชิการาม จังหวัดอยุธยา

เริ่มพิธีอธิษฐานจิตโดย เจ้าอาวาสวัดหน้าพระเมรุราชิการาม

เสริมพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ด้วยยันต์โสฬสมหามงคล ยันต์ที่ถือเป็นที่สุดแห่งยันต์ พุทธคุณครอบจักรวาล ด้วยอักขระ

และเลขมงคลทั้ง ๑๖ เสมือนเป็นเกาะธรรมอันทรงพลัง

ยันต์โสฬสมหามงคล หมายถึง ยันต์ที่มีพลังปกป้องและเสริมมงคลทั้ง 16 ด้าน

ครอบคลุมความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน สุขภาพ การเดินทาง และความสำเร็จ โดยมีความเชื่อว่า

“ใครมีไว้กับตน จะแคล้วคลาดปลอดภัย เจริญด้วยโชคลาภ อายุยืน ป้องกันคุณไสย เสนียดจัญไรไม่กล้ำกราย”

“ยันต์โสฬสมหามงคล” มีรากมาจากคัมภีร์ไสยศาสตร์โบราณ และตำราพุทธาคมสายล้านนาและกรุงศรีอยุธยา โดยคำว่า “โสฬส” เป็นคำสันสกฤต/บาลี แปลว่า เลข ๑๖ (สิบหก) ส่วนคำว่า “มหามงคล” หมายถึง สิ่งที่เป็นมงคลสูงสุด

ฤกษ์มงคล ๑๖.๑๖ น. - ตามความหมายของคำว่า “โสฬส” แปลว่า “๑๖”

วัดเดียวในอยุธยาที่ไม่ถูกเผาทำลาย

ในครั้งกรุงศรีอยุธยาล่มสลายครั้งที่ 2 เมื่อปีพุทธศักราช 2310
ไฟสงครามได้เผาทำลายเมืองหลวงเก่าแทบทั้งพระนคร วัดวาอาราม พระราชวัง
และโบราณสถานสำคัญส่วนใหญ่กลายเป็นซากปรักหักพัง

แต่ท่ามกลางความพินาศนั้น วัดหน้าพระเมรุคือวัดเดียวที่ยังคงยืนหยัดอยู่ได้โดยไม่ถูกเผา โบสถ์ วิหาร และองค์พระสำคัญต่าง ๆ ยังคงสมบูรณ์เกือบทั้งหมด
ทำให้ที่นี่ถือเป็น “พยานประวัติศาสตร์” ที่หายากที่สุดแห่งหนึ่งของอยุธยา วัดหน้าพระเมรุจึงถูกมองว่าเป็นสถานที่แห่ง “ชะตาแห่งการรอดพ้น” และ “พลังคุ้มครองเมือง” เพราะแม้ทั่วทั้งกรุงจะมอดไหม้ แต่ที่นี่กลับยังคงงดงามและสง่างามดังเดิม ผู้คนจำนวนมากจึงเชื่อว่าวัดแห่งนี้ มีพลังอำนาจทางคุ้มครอง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และนำความแคล้วคลาดไม่ต่างจากการรอดพ้นจากไฟสงครามครั้งยิ่งใหญ่ในอดีต

”ยันต์โสฬสมหามงคลออโรร่า ผลิตจากผ้าพิเศษที่ เผาไม่ไหม้”

บทสวดคาถาโสฬสมหามงคล (ฉบับเต็ม)

นะโม เม สัพพะพุทธา นัง
สัพพะโสตถี ภะวันตุ เม
สัพพะลาภา ภะวันตุ เม
สัพพะสังกะหะ ภะวันตุ เม
สัพพะปัตถา ภะวันตุ เม
สัพพะท่านัง ปิโย โหหิ
สัพพะเทวา มะนุสสานัง ปิโย โหหิ
สัพพะสัมปัตติ โหตุ เม
สัพพะมาระ วินาสสันติ
สัพพะภัยา วินาสสันติ
สัพพะโรคา วินาสสันติ
สัพพะอันตะรายา วินาสสันติ
สัพเพ เทวา สะปาโล เม
สัพพะโสตถี ภะวันตุ เม
สัพพะกัมมัง ปะสิทธิกัมมัง
สัพพะสิทธิ ภะวันตุ เม