การจัดการทุน–ราคาทองหนุน AURA เด่น KS แนะ “ซื้อ” มองเป้าหมาย 20.1 บาท

 

ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเปราะบาง ราคาทองคำกลับกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของบริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ AURA อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อรวมกับศักยภาพของธุรกิจขายฝากทองคำและแนวโน้มการบริหารจัดการทางการเงินที่ชาญฉลาดของบริษัท ทำให้ AURA กลายเป็นหนึ่งในหุ้นที่นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง
 

AURA ทำผลงานได้โดดเด่นในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ด้วยผลประกอบการที่เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนหลักจากราคาทองคำที่ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แม้อาจไม่ร้อนแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา แต่ยังสร้างแรงจูงใจให้เกิดกิจกรรมการขายฝากและขายคืนอย่างต่อเนื่อง 

 

จุดเด่นสำคัญคืออัตรากำไรขั้นต้นของ AURA ซึ่งอยู่ราว 10% และมีแนวโน้มรักษาระดับได้อย่างมั่นคงจากโครงสร้างรายได้ที่หลากหลาย ทั้งจากเครื่องประดับทองคำที่มีมาร์จิ้นสูง และบริการขายฝากที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

 

อีกหนึ่งปัจจัยบวกคือการออกหุ้นกู้ระยะสั้นของบริษัท ซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลของตลาดเกี่ยวกับความเพียงพอของแหล่งเงินทุน นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนแยกธุรกิจค้าปลีกและขายฝากทองออกจากกัน เพื่อปลดล็อกศักยภาพและสร้างโอกาสในการจัดหาเงินทุนในอนาคต

 

KS (บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย) ให้มุมมองเชิงบวกต่อ AURA และแนะนำ “ซื้อ” พร้อมให้ราคาเป้าหมายใหม่ ณ สิ้นปี 2568 ที่ 20.1 บาท โดยเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตต่อเนื่องของบริษัท ทั้งจากกลยุทธ์ของผู้บริหาร ความสามารถในการปลดล็อกแหล่งทุน และภาพรวมของอุตสาหกรรมทองคำที่ยังมีแนวโน้มเติบโตในระยะกลางถึงยาว

 

AURA คือบริษัทที่สามารถผสานระหว่างภาวะตลาดทองคำที่เอื้ออำนวย กับโมเดลธุรกิจที่ยืดหยุ่นและพร้อมเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการบริหารพอร์ตทองคำ บวกกับการจัดโครงสร้างธุรกิจและการเงินอย่างชาญฉลาด ทำให้ AURA กลายเป็นหุ้นที่ “ราคาถูกเกินไปที่จะมองข้าม” ในสายตานักลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดกำลังมองหาความมั่นคงและศักยภาพการเติบโตระยะยาว


 

ขอขอบคุณที่มา: KSecurities Facebook: https://bit.ly/45FjL8G
                           Biden News Facebook: https://bit.ly/3Gdn6Bq
                           Trinity Securitie Facebook: https://bit.ly/3HUM9tz

                           ประชาชาติธุรกิจ: https://www.prachachat.net/finance/news-1713003
                           หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับของวันที่ 12/12/2567

 

 

 

 

2,126ครั้ง